เมนู

ป. ถ้าอย่างนั้น ปุถุชนก็ไม่สงัดแล้วจากธรรมมีธาตุ 3
น่ะสิ.
อวิวิตตกถา จบ

อรรถกถาอวิวิตตกถา


ว่าด้วย ปุถุชนผู้ไม่สงัด


บัดนี้ ชื่อว่าเรื่องปุถุชนผู้ไม่สงัด ในเรื่องนั้น การสันนิษฐาน ใน
ลัทธิของสกวาทีนี้ว่า ธรรมใดเกิดขึ้นเฉพาะหน้า คือเป็นปัจจุบัน ด้วย
บุคคลใด บุคคลนั้นชื่อว่าไม่สงัดจากธรรมนั้น
ดังนี้. ก็ชนเหล่าใดมี
ความเห็นผิดดุจลัทธินิกายอุตตราปถกะบางพวกนั้นนั่นแหละว่า ปุถุชน
ไม่กำหนดรู้ธรรมอันประกอบด้วยธาตุ 31 เหตุใด เพราะเหตุนั้น ในขณะ
เดียวกันนั่นแหละเขาย่อมไม่สงัดจากธรรมอันประกอบด้วยธาตุ 3 แม้
ทั้งปวง ดังนี้ คำถามของสกวาทีหมายถึงชนเหล่านั้น คำตอบรับรองเป็น
ของปรวาที.
คำว่า ไม่สงัดจากผัสสะ 3 เป็นต้น สกวาทีกล่าวเพื่อแสดงโทษ
อันเป็นไปในขณะหนึ่งแห่งธรรมทั้งปวงมีผัสสะเป็นต้น. คำที่เหลือในที่นี้
มีอรรถตื้นทั้งนั้นแล.
อรรถกถาอวิวิตตกถา จบ

1. ธาตุ 3 คือ กามธาตุ รูปธาตุ อรูปธาตุ.

สัญโญชนกถา


[1838] สกวาที การที่พระโยคียังไม่ละสัญโญชน์บางอย่าง แล้ว
บรรลุอรหัตตผล มีอยู่หรือ ?
ปรวาที ถูกแล้ว.
ส. การที่พระโยคียังไม่ละสักกายทิฏฐิ ฯลฯ ยังไม่ละ
วิจิกิจฉา ฯลฯ ยังไม่ละสีลัพพตปรามาส ฯลฯ ยังไม่ละราคะ ยังไม่ละโทสะ
ยังไม่ละโมหะ ฯลฯ ยังไม่ละอโนตตัปปะบางอย่าง แล้วบรรลุอรหัตผล
มีอยู่หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[1839] ส. การที่พระโยคียังไม่ละสัญโญชน์บางอย่างแล้วบรรลุ
อรหัตผล มีอยู่หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. พระอรหันต์ยังมีราคะ ยังมีโทสะ ยังมีโมหะ ยังมี
มานะ ยังมีมักขะ ยังมีอุปายาส ยังมีกิเลส หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. พระอรหันต์ หมดราคะแล้ว หมดโทสะแล้ว หมดโมหะ
แล้ว หมดมานะแล้ว หมดมักขะแล้ว หมดปฬาสะแล้ว หมดอุปายาสแล้ว
หมดกิเลสแล้ว หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. หากว่า พระอรหันต์หมดราคะแล้ว ฯลฯ หมดกิเลส
แล้ว ก็ต้องไม่กล่าวว่า การที่พระโยคียังไม่ละสัญโญชน์บางอย่างแล้ว
บรรลุอรหัตผล มีอยู่.